[x] ปิดหน้าต่างนี้
ค้นหา   
99 หมู่10 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี 18180 โทร : 036-342239 แฟ็กซ์ : 036-342240 E-mail : konommuaklek2515@hotmail.com

ผังองค์กร
นายนครินทร์ สีวงกต
ประธานกรรมการ
เมนูหลัก
แบนเนอร์
จำนวนผู้เข้าชม

 เริ่มนับ 12/ก.พ./2558
ผู้ใช้งานขณะนี้ 7 IP
ขณะนี้
7 คน
สถิติวันนี้
869 คน
สถิติเมื่อวานนี้ี้
1071 คน
สถิติเดือนนี้
9622 คน
สถิติปีนี้
94975 คน
สถิติทั้งหมด
1177189 คน
IP ของท่านคือ 18.217.144.32
(Show/hide IP)

  

   เว็บบอร์ด >> สอบถามเรื่องทั่วไป >>
โรค RSV คืออะไร อันตรายหรือไม่  VIEW : 2243    
โดย Dawnny

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 2
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 60%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 14.207.124.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 24 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เวลา 15:35:18   

เมื่อถึงฤดูฝนต้องเผชิญกับฝนตกและแดดออก สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นหวัดได้โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ และเมื่อเป็นหวัดก็เสี่ยงมากที่จะเป็นเป็นไวรัส RSV ด้วยสภาพอากาศในบ้านเราปัจจุบัน กำลังเผชิญกับฤดูกาลที่เรียกว่า “ปลายฝนต้นหนาว” ซึ่งเดิมทีประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนทำให้หนาวได้ไม่นาน

สำหรับพ่อ – แม่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “ลูก” การจะเลี้ยงให้เขาเติบโตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราต้องพยามหาของดี ๆ ให้เขาได้กิน เสื้อผ้าที่สะอาด และของใช้ที่เหมาะสมกับเด็กเพื่อให้เขามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง

 

ไวรัส RSV คืออะไร

จริง ๆ แล้วไวรัสRSVมีมาตั้งแต่พ.ศ.2498แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก ซึ่งไวรัสนี้เกิดจากลิงชิมแปนซีตัวนึงที่เป็นไข้หวัด ก่อนจะตรวจพบว่าไวรัสนั้นสามารถติดต่อมาสู่คนได้ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และจะมีอาการรุนแรงมากในเด็กอายุน้อย ซึ่งอาจจะเกิดจากไข้หวัดธรรมดาและพัฒนาไปเป็นRSV

 

อาการ

RSVมีระยะการฝักตัวอยู่ที่ 3 – 6 วัน อารการแรกเริ่มจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือคล้ายปอดอักเสบ และค่อย ๆ เริ่มมีอาการอื่น ๆ ร่วมเข้ามาและรุนแรงมากขึ้น

ˠ เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก

ˠ หายใจเข้า – ออกมีเสียงลมหายใจ หายใจเร็ว แรง

ˠ มีอาการตัวเขียว

ˠ ไอ มีเสมหะในลำคอ

ไวรัสตัวนี้จะเป็นอันตรายกับเด็กที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด

โรคหอบหืด บางรายอาจมีอาการหนักถึงขั้นหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ เลยทีเดียว นอกจากอาการข้างต้นแล้ว หากเด็กมีอาการซึมลง กินข้าว กินนมน้อยลง อารมณ์แปรปรวน ไม่ร่าเริง ควรพาไปพบแพทย์เช่นกัน

 

สาเหตุของการติดเชื้อ

เชื้อไวรัส RSV ตัวนี้ไม่ได้ติดต่อได้เพียงแค่เด็กเล็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเป็นไวรัสตัวนี้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ผู้ใหญ่มีภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่แข็งแรงมากกว่า ทำให้ไวรัสตัวนี้สามารถหายเองได้ต่างจากไวรัสโคโรน่า แต่กลับกันในเด็กเล็กนั้นภูมิคุ้มกันยังต่ำทำให้ไวรัสตัวนี้ค่อนข้างจะอันตราย โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ แต่หากพบในผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

ไวรัส RSV สามารถติดต่อได้เช่นเดียวกับการติดต่อของไข้หวัดทั่วไปเลย คือผ่านทางการใช้อากาศหายใจร่วมกัน การไอ จาม หรือแม้แต่การดื่มน้ำทานอาหารร่วมกัน สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กส่วนใหญ่จะมาจากการที่เด็กมีภาวะแทรกซ้อนหรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว หรือเด็กที่อาจจะคลอดก่อนกำหนด บางรายเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว ลามไปถึงการเสียชีวิตได้

วิธีการรักษา

       ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรค RSV ที่หายขาด ยังคงต้องทำการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ หรือการดูดเสมหะไปจนถึงการพ่นยาขยายหลอดลม เพื่อเป็นการดลความรุนแรงของไข้ให้ลดลงไปได้บ้าง

 

วิธีการป้องกัน

การป้องกันการติดเชื้อ RSV ทำได้โดยการรักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะ มือ เพราะเป็นนอวัยวะที่สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ โดยตรง ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อลดภาวะขาดน้ำและช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หากพ่อ – แม่ท่านไหนที่มีลูกหลายคน หรือเลี้ยงในครอบครัวใหญ่ก็ให้แยกภาชนะออกจากเด็กคนอื่น ๆ





โดย dawnny
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 2
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 183.89.172.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 29 พ.ย. 2564 : 14:19

อ่าน บทความดี ๆ อัพเดทล่าสุด 29/11/64

      
โดย dawnny
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 2
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 183.89.172.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 29 พ.ย. 2564 : 14:24

อ้างอิงกระทู้ (Quote Tpoic ID) 682 โพสแล้ว (By) Dawnny :

เมื่อถึงฤดูฝนต้องเผชิญกับฝนตกและแดดออก สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นหวัดได้โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ และเมื่อเป็นหวัดก็เสี่ยงมากที่จะเป็นเป็นไวรัส RSV ด้วยสภาพอากาศในบ้านเราปัจจุบัน กำลังเผชิญกับฤดูกาลที่เรียกว่า “ปลายฝนต้นหนาว” ซึ่งเดิมทีประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนทำให้หนาวได้ไม่นาน

สำหรับพ่อ – แม่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “ลูก” การจะเลี้ยงให้เขาเติบโตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราต้องพยามหาของดี ๆ ให้เขาได้กิน เสื้อผ้าที่สะอาด และของใช้ที่เหมาะสมกับเด็กเพื่อให้เขามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง

 

ไวรัส RSV คืออะไร

จริง ๆ แล้วไวรัสRSVมีมาตั้งแต่พ.ศ.2498แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก ซึ่งไวรัสนี้เกิดจากลิงชิมแปนซีตัวนึงที่เป็นไข้หวัด ก่อนจะตรวจพบว่าไวรัสนั้นสามารถติดต่อมาสู่คนได้ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และจะมีอาการรุนแรงมากในเด็กอายุน้อย ซึ่งอาจจะเกิดจากไข้หวัดธรรมดาและพัฒนาไปเป็นRSV

 

อาการ

RSVมีระยะการฝักตัวอยู่ที่ 3 – 6 วัน อารการแรกเริ่มจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือคล้ายปอดอักเสบ และค่อย ๆ เริ่มมีอาการอื่น ๆ ร่วมเข้ามาและรุนแรงมากขึ้น

ˠ เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก

ˠ หายใจเข้า – ออกมีเสียงลมหายใจ หายใจเร็ว แรง

ˠ มีอาการตัวเขียว

ˠ ไอ มีเสมหะในลำคอ

ไวรัสตัวนี้จะเป็นอันตรายกับเด็กที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด

โรคหอบหืด บางรายอาจมีอาการหนักถึงขั้นหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ เลยทีเดียว นอกจากอาการข้างต้นแล้ว หากเด็กมีอาการซึมลง กินข้าว กินนมน้อยลง อารมณ์แปรปรวน ไม่ร่าเริง ควรพาไปพบแพทย์เช่นกัน

 

สาเหตุของการติดเชื้อ

เชื้อไวรัส RSV ตัวนี้ไม่ได้ติดต่อได้เพียงแค่เด็กเล็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเป็นไวรัสตัวนี้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ผู้ใหญ่มีภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่แข็งแรงมากกว่า ทำให้ไวรัสตัวนี้สามารถหายเองได้ต่างจากไวรัสโคโรน่า แต่กลับกันในเด็กเล็กนั้นภูมิคุ้มกันยังต่ำทำให้ไวรัสตัวนี้ค่อนข้างจะอันตราย โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ แต่หากพบในผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

ไวรัส RSV สามารถติดต่อได้เช่นเดียวกับการติดต่อของไข้หวัดทั่วไปเลย คือผ่านทางการใช้อากาศหายใจร่วมกัน การไอ จาม หรือแม้แต่การดื่มน้ำทานอาหารร่วมกัน สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กส่วนใหญ่จะมาจากการที่เด็กมีภาวะแทรกซ้อนหรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว หรือเด็กที่อาจจะคลอดก่อนกำหนด บางรายเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว ลามไปถึงการเสียชีวิตได้

วิธีการรักษา

       ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรค RSV ที่หายขาด ยังคงต้องทำการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ หรือการดูดเสมหะไปจนถึงการพ่นยาขยายหลอดลม เพื่อเป็นการดลความรุนแรงของไข้ให้ลดลงไปได้บ้าง

 

วิธีการป้องกัน

การป้องกันการติดเชื้อ RSV ทำได้โดยการรักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะ มือ เพราะเป็นนอวัยวะที่สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ โดยตรง ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อลดภาวะขาดน้ำและช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หากพ่อ – แม่ท่านไหนที่มีลูกหลายคน หรือเลี้ยงในครอบครัวใหญ่ก็ให้แยกภาชนะออกจากเด็กคนอื่น ๆ

อ่าน บทความดี ๆ อีกมากมาย ได้ที่ : https://dawncontent.com/



      
1